ฮอกไกโดมีวัตถุดิบสดใหม่หลากหลายและมีของอร่อยมากมาย นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมักจะติดอันดับต้นๆ ของจังหวัดที่มีอาหารอร่อยทุกครั้งเลยค่ะ! ซุปแกงกะหรี่ แกะย่างเจงกีสข่าน อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์จากนม ฯลฯ อาหารเหล่านี้ต่างเป็นอาหารขึ้นชื่อของฮอกไกโดทั้งหมด และเนื่องจากฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้อาหารท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่แตกต่างกันออกไป ในครั้งนี้เราจะขอแนะนำของอร่อยเกรด B จากแต่ละภูมิภาคของฮอกไกโดค่ะ
Nov 24. 2023
【ของอร่อยในญี่ปุ่น】ตระเวนล่าหาอาหารท้องถิ่นเกรด B ที่ "ฮอกไกโด"
"ของอร่อยเกรด B" คืออะไร?
นอกจากของอร่อยยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต้องกินแล้ว ยังมีของอร่อยที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่ถึงแม้จะอยู่ในจังหวัดเดียวกันค่ะ ของอร่อยเกรด B เป็นอาหารที่ปรุงด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นโดยไม่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะทางหรือการตกแต่งที่ยอดเยี่ยมใด ๆ เป็นอาหารง่าย ๆ ที่มีรสชาติที่คนในท้องถิ่นคุ้นเคยกันนั่นเองค่ะ
จุดเด่นของของอร่อยในฮอกไกโด
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นเขตปกครองที่อยู่เหนือสุดของญี่ปุ่นและมีพื้นที่ใหญ่ที่สุด เกาะหลักของฮอกไกโดมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 78,000 ตารางกิโลเมตร (ไม่รวมเกาะห่างไกล) เนื่องจากมีขนาดใหญ่ ทำให้แต่ละพื้นที่มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสภาพอากาศที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่หลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่แค่เพียงแต่ปริมาณการผลิตเท่านั้น แต่ยังมีความอร่อยและคุณภาพที่โดดเด่นอีกด้วยค่ะ
โอตารุ "อันคาเคะยากิโซบะ"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: สมาคมการท่องเที่ยวโอตารุ
"โอตารุอันคาเคะยากิโซบะ" (小樽あんかけ焼きそば / Otaru Ankake Yakisoba ราดหน้ายากิโซบะสูตรโอตารุ) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในพื้นที่นั้นเป็นของอร่อยเกรด B ของโอตารุซึ่งมีจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่เรียกว่า "อุนกะ" (運河 / Unga คลอง) ค่ะ ว่ากันว่าอันคาเคะยากิโซบะเริ่มแพร่หลายในเมืองโอตารุในช่วงปีโชวะที่ 30's (ค.ศ. 1955-1964) โดยมีจุดเด่นคือการราดหน้าด้วยเครื่องต่างๆ จำนวนมากบนเส้นบะหมี่ที่แข็งเล็กน้อยค่ะ เพื่อปกป้องของอร่อยท้องถิ่นอันเป็นที่รักนี้ คนในพื้นที่จึงจัดตั้ง "กองกำลังพิทักษ์โอตารุอันคาเคะยากิโซบะ" (小樽あんかけ焼きそば親衛隊 Otaru Ankake Yakisoba Shineitai) ขึ้นมา และส่งต่อความอร่อยนี้ให้กับผู้คนมากมายค่ะ
โทมะโคไม "หอยปีกนก"
เมืองโทมะโคไมเป็นเมืองที่จับหอยปีกนกได้มากที่สุดในญี่ปุ่น หอยปีกนก (ホッキ貝 / Hokkigai) เป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้สำหรับโต๊ะอาหารของคนในท้องถิ่น ในบรรดาอาหารต่างๆ "แกงกะหรี่หอยปีกนก" (ホッキ貝カレー / Hokkaigai Curry) และ "ข้าวหุงหอยปีกนก" (ホッキ貝の炊き込みごは / Hokkigai no takikomi gohan) เป็นอาหารครัวเรือนที่ทุกคนคุ้นเคยเลยค่ะ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองโทมะโคไมได้คิดค้นเมนูหอยปีกนกใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น "ยากิโซบะหอยปีกนกโทมะโคไม" (苫小牧ホッキ貝やきそば / Tomakomai Hokkigai Yakisoba) ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นในปี 2015 และได้รับความนิยมอย่างมากจนกลายเป็นของอร่อยขึ้นชื่อหน้าใหม่อย่างรวดเร็วเลยค่ะ
มูโรรัน "ราเมนแกงกะหรี่มูโรรัน"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: อำเภอมูโรรัน
"ราเมนแกงกะหรี่มูโรรัน" (室蘭カレーラーメン / Muroran Curry Ramen) ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 30 ปีนั้น "ไม่มีคำจำกัดความตายตัวของราเมนแกงกะหรี่ เพียงแค่มีรสแกงกะหรี่ก็พอ" ดังนั้น แต่ละร้านจึงมีวิธีการปรุงและรสชาติที่มีเอกลักษณ์ค่ะ ราเมนแกงกะหรี่ซึ่งมีความหลากหลายในท้องถิ่นนี้ถือได้ว่าเป็นราเมนตัวแทนของฮอกไกโด เหมือนกับราเมนมิโซะซัปโปโร และราเมนโชยุอาซาฮิกาวะค่ะ
มูโรรัน "มูโรรันยากิโทริ"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: อำเภอมูโรรัน
"มูโรรันยากิโทริ" (室蘭やきとり / Muroran Yakitori) คือของอร่อยเกรด B แบบดั้งเดิมของมูโรรันค่ะ มูโรรันยากิโทรินั้นถือกำเนิดขึ้นในสมัยโชวะตอนต้น (ประมาณปีค.ศ. 1937) และถึงแม้ว่าในชื่อจะมีคำว่า "โทริ" (とり / tori) ที่แปลว่าไก่ก็ตาม แต่จะใช้ "หมู" มาเสียบไม้ปิ้งค่ะ นอกจากนี้ เนื่องจากหัวหอมพื้นเมืองของฮอกไกโดมีราคาถูกมากและเข้ากันได้ดีกับหมู จึงนำหัวหอมมาเสียบไม้ปิ้งกับหมู ในขณะที่ไก่ย่างทั่วไปในญี่ปุ่นจะนำต้นหอมญี่ปุ่นมาเสียบปิ้งกับไก่ค่ะ เมนูนี้จึงกลายเป็นของอร่อยเกรด B ที่มีชื่อเสียงของมูโรรันไปเลยค่ะ
อาซาฮิกาวะ "ราเมนอาซาฮิคาวะโชยุโฮรุเมน"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: กองการท่องเที่ยวอำเภออาซาฮิคาวะ
เนื่องจากอำเภออาซาฮิคาวะเคยมีอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูที่เฟื่องฟู ทำให้เกิดวัฒนธรรมอาหารที่ปรุงจากเครื่องในขึ่นภายในท้องถิ่น และยังมีผู้ที่ชื่นชอบเครื่องในสัตว์อยู่มากมายในพื้นที่ด้วย ตัวอย่างเช่น ชิโอโฮรุมง (塩ホルモン / shio horumon - เครื่องในย่างเกลือ) เป็นเครื่องในย่างชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดในอาซาฮิคาวะ ในบรรดาเมนูอาหารเครื่องในเหล่านี้ อาหารจานที่พิเศษที่สุดคืออาหารจำพวกเส้นที่เรียกว่า "อาซาฮิคาวะโชยุโฮรุเมน" (旭川しょうゆホルメン / Asahikawa Shoyu Horumen - ราเมนเครื่องในสูตรโชยุของอาซาฮิคาวะ) โดยส่วนผสมของราเมนอาซาฮิคาวะโชยุโฮรุเมนไม่ได้มีเพียงแค่หน่อไม้ดองเมนมะและหมูย่างชาชูที่ทุกคนคุ้นเคยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเครื่องในผัดอีกด้วย สมกับเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจากพื้นที่ที่ชื่นชอบเครื่องในค่ะ
อาซาฮิคาวะ "เกโซด้ง"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: กองการท่องเที่ยวอำเภออาซาฮิคาวะ
นำขาปลาหมึกเคลือบด้วยแป้งมันและทอดอย่างดีในกระทะมาวางโปะบนข้าวขาวหุงร้อน ๆ แล้วราดด้วยซอส ก็จะกลายเป็น "เกโซด้ง" แสนอร่อยค่ะ ว่ากันว่าเกโซด้ง (ゲソ丼 / geso-don ข้าวหน้าขาปลาหมึก) มีต้นกำเนิดในปี 1981 เมื่อผู้จัดการร้านโซบะยืนกิน "Standing Eating Soba Tenyu" (立ち食いそば天勇) ทำเทมปุระจากขาปลาหมึกที่เหลือที่ร้านซูชิในเครือเดียวกัน "Sushiya Tenyu" (寿司屋 天勇) และเสิร์ฟให้กับลูกค้าค่ะ
ฟุราโนะ "ข้าวแกงกะหรี่ไข่เจียวฟุราโนะ"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: กองการค้าและการท่องเที่ยวอำเภอฟุราโนะ จังหวัดฮอกไกโด
ดูเผิน ๆ อาจดูเหมือนว่าวิธีทำไม่ได้ซับซ้อนมากอะไร แต่หากจะนำ "แกงกะหรี่ฟุราโนะ" ไปเขียนลงในเมนูของคุณแล้ว ก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ เช่น ส่วนผสมอย่างข้าว ผัก ไข่ เนื้อสัตว์ และของดอง ต้องเป็นของที่ผลิตในฟุราโนะเท่านั้นค่ะ! นอกจากนี้ ยี่ห้อนมที่ใช้ก็จำกัดเฉพาะ "Furano Milk" (ふらの牛乳) เท่านั้นด้วย แถมราคาข้าวไข่เจียวก็ต้องไม่เกิน 1100 เยน (ยังไม่รวมภาษี) เมื่อทำตามเงื่อนไขทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว ก็ปักธงไว้ตรงกลางข้าวไข่เจียวเพื่อเป็นการแสดงว่าเป็น "ข้าวแกงกะหรี่ไข่เจียวฟุราโนะ" (富良野オムカレー / Furano Omu Kare) ของแท้ค่ะ
เนมุโระ "เอสคาโลป"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดฮอกไกโด
"เอสคาโลป" (エスカロップ / escalope) ซึ่งมีต้นกำเนิดในเนมุโระนั้น เป็นของอร่อยท้องถิ่นที่ทำจากข้าวซอสมะเขือเทศหรือข้าวเนย วางโปะด้วยหมูทอดทงคัตสึและราดด้วยซอสเดมิกลาสค่ะ ชื่อนี้มาจากคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศส "escalope (ชิ้นเนื้อหั่นบาง) " โดยว่ากันว่าสาเหตุที่ทงคัตสึในเมนูเอสคาโลปของเนมุโระบางกว่าทงคัตสึทั่วไปเป็นเพราะว่าต้องการย่นระยะเวลาในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ ยังถูกแบ่งออกเป็น “อะคะเอสคา” (赤エスカ / aka-esuka เอสคาแดง) และ “ชิโระเอสคา” (白エスカ / shiro-esuka เอสคาขาว) โดยขึ้นอยู่กับชนิดของข้าวที่ใช้ ข้าวซอสมะเขือเทศ “เอสคาแดง” ได้รับความนิยมมากในช่วงแรกหลังจากนี้เมนูนี้ถือกำเนิดขึ้นมา แต่ตอนนี้ “เอสคาขาว” กลับเป็นที่นิยมอย่างท่วมท้นค่ะ
คุชิโระ "สปาคัทสึ"
"สปาคัตสึ" (スパカツ / spa-katsu สปาเก็ตตี้ทงคัตสึ) โซลฟู้ดของคุชิโระนั้นเป็นเมนูที่นำแกงกะหรี่คัตสึมาราดบนสปาเก็ตตี้มีทซอส โดยคุณจะพบร้านอาหารท้องถิ่นซึ่งสามารถทานอาหารจานนี้ได้มากมายในพื้นที่ค่ะ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าในปี 1950 วัฒนธรรมอาหารตะวันตกจะยังไม่แพร่หลายมากก็ตาม แต่ร้านอาหาร "Izumiya" (泉屋) ในอำเภอคุชิโระได้คิดค้น "สปาคัทสึ" ที่เสิร์ฟในจานกระทะเหล็กร้อน ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับการรับประทานแบบร้อน ๆ จนถึงคำสุดท้ายค่ะ
คุชิโระ "ซันมันมะ"
“ซันมันมะ” (さんまんま / Sanmanma) เป็นเมนูที่นำปลาซันมะซึ่งหมักในซอสจนได้ที่ มาวางโปะบนข้าวที่หุงกับปลา แล้วนำไปย่างด้วยเตาถ่านค่ะ ในระหว่างที่ย่างด้วยเตาถ่าน ไขมันที่มีกลิ่นหอมของปลาซันมะก็จะซึมเข้าสู่ข้าว ทำให้เป็นอาหารพิเศษของคุชิโระที่ได้กลั่นกรองความอร่อยของปลาซันมะออกมาอย่างเต็มที่ค่ะ
อาบาชิริ "อะบาชิริโมโยโระนาเบะ"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดฮอกไกโด
“อาบาชิริโมโยโระนาเบะ” (網走モヨロ鍋 / Abashiri Moyoro Nabe) เป็นอาหารหม้อไฟประจำท้องถิ่นที่มีอาหารทะเลมากมาย เช่น ปลาแซลมอนจากทะเลโอค็อตสค์ โดยชื่อ "โมโยโระ" นั้นมาจาก "เนินสุสานเปลือกหอยโมโยโระ" (モヨロ貝塚 / Moyoro Kaizuka) ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโอค็อตสค์ในท้องถิ่นนี้ค่ะ "อาบาชิริโมโยโระนาเบะ" ไม่เพียงแต่พิถีพิถันในวัตถุดิบและน้ำซุปในท้องถิ่นของอาบาชิริเท่านั้น แต่ยังต้องใช้หม้อแบบที่ระบุอีกด้วย นอกจากนี้ ธีมของอาหารก็ยังต้องเป็น "สิ่งที่ชวนให้นึกถึงวัฒนธรรมโอค็อตสค์อันลึกลับ" อีกด้วยค่ะ
คิตามิ "ชิโอยากิโซบะ"
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: กองส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอคิตามิ
"ชิโอยากิโซบะ" (塩やきそば / Shio yakisoba) ได้ถือกำเนิดขึ้นในอำเภอคิตามิซึ่งผลิตหัวหอมในปริมาณมากที่สุดในญี่ปุ่น โดยเป็นเมนูที่ใช้หัวหอมในท้องถิ่นและอาหารทะเลต่าง ๆ แตกต่างจากยากิโซบะแบบราดซอสที่คุณสามารถพบได้ทั่วไป และสิ่งที่กำหนดความอร่อยของคิตามิชิโอยากิโซบะนั้นคือเกลือและหอยเชลล์จากโอค็อตสค์ค่ะ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือซุปหอยเชลล์ที่เรียกว่า "น้ำวิเศษ" (魔法の水 / maho no mizu) ทันทีที่ราดน้ำซุปลงไป คุณก็จะได้เพลิดเพลินไปกับรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ!
ฮอกไกโดซังกิ
"ซังกิ" (ザンギ / Zangi) ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในเกือบทุกที่ในฮอกไกโดนั้น เป็นอาหารพื้นบ้านแบบดั้งเดิมของฮอกไกโด จุดสำคัญของซังกิซึ่งจะนำไก่ที่ถูกปรุงรสอย่างทั่วถึงไว้ล่วงหน้าแล้วไปทอดนั้น คือ "วิธีการปรุงรส" โดยถึงแม้ว่าจะใช้ซอสโชยุในการปรุงรสเหมือนกันก็ตาม แต่รสชาติก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละร้านและแต่ละบ้านค่ะ จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็น "รสชาติฝีมือแม่" (おふくろの味 / Ofukuro no Aji หมายถึงรสชาติที่เหมือนอาหารที่กินเวลาอยู่ที่บ้าน) ที่มีความคุ้นเคยในฮอกไกโดค่ะ
อาเกะอิโมะ
ได้รับความอนุเคราะห์ภาพจาก: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวฮอกไกโด
นอกจากของว่างแล้ว ของอร่อยเกรด B ยอดนิยมที่เรียกว่า "อาเกะอิโมะ" (あげいも / Ageimo) ยังถือกำเนิดขึ้นในฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งผลิตมันฝรั่งอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ โดยจะนำมันฝรั่งที่ปอกเปลือกแล้วลงไปคลุกในแป้งแล้วทอดจนเป็นก้อนกลมสีน้ำตาลทองค่ะ เนื่องจากในสมัยก่อนจะใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงกว่าจะถึง "ช่องเขานาคายามะ" (中山峠 / Nakayama Toge) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอาเกะอิโมะ ดังนั้น "อาเกะอิโมะ" จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อเติมเต็มความหิวของนักเดินทางบนเส้นทางที่ว่างเปล่านี้ค่ะ ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเมนูพิเศษของฮอกไกโดที่คุณต้องห้ามพลาดเมื่อได้มาที่ช่องเขานาคายามะค่ะ