ผลไม้ญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั่วโลก ทั้งในด้านคุณภาพและความสดใหม่ ฤดูของ "สตรอเบอร์รี่" จะเริ่มตั้งแต่ฤดูหนาวถึงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากพันธุ์ทั่วไป อย่างโทจิโอโตเมะและอามะโอแล้ว เราจะแนะนำพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่าสตรอเบอร์รี่ขาวและสตรอเบอร์รี่ดํา และแนะนําวิธีการเพลิดเพลินกับสตรอเบอร์รี่ในญี่ปุ่น เช่น การเก็บสตรอเบอร์รี่ และขนมหวานสตรอเบอร์รี่ค่ะ
Feb 28. 2025
คู่มือฉบับสมบูรณ์เกี่ยวกับสตรอว์เบอร์รี่ญี่ปุ่น ฤดูสตรอ์วเบอรี่นี่เมื่อไหร่กันนะ? แนะนําเกี่ยวกับสตรอเบอร์รี่พันธุ์ต่างๆ อย่างสตรอเบอร์รี่ขาว ไปจนถึงการเก็บสตรอเบอร์รี่และขนมหวาน

เสน่ห์ของสตรอเบอร์รี่ในญี่ปุ่น
สตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะวิตามินซี โดยมีวิตามินซีมากกว่าส้มเขียวหวานและเกรปฟรุตประมาณสองเท่า นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยกรดโฟลิก วิตามินบี และแอนโธไซยานินซึ่งเป็นโพลีฟีนอลชนิดหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถคาดหวังคุณสมบัติต่างๆ เช่น ลดริ้วรอย ป้องกันโรค รักษาสุขภาพดวงตา และส่งเสริมความงามของผิว
นอกจากนี้ ยังมีแคลอรีต่ำอยู่ที่ 34 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม (สตรอเบอร์รี่ 6-7 ลูก) ทำให้ดีต่อสุขภาพ หากคุณใส่ใจในความงามแล้วละก็ต้องห้ามพลาดเลยนะคะ
นอกจากนี้ คุณรู้หรือไม่ว่าสตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ? เหตุผลหลักคือ "รสชาติหวานและสดใหม่" และ "คุณภาพสูง"
ถึงแม้ว่าจะมีสตรอเบอร์รี่ให้รับประทานทั่วโลก แต่สตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นจะมีชื่อเสียงในด้านความหวานและความอร่อยเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการพัฒนาเทคนิคการเพาะพันธุ์และการเพาะปลูกสตรอเบอร์รี่มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปลายสมัยเอโดะเมื่อสตรอเบอร์รี่ถูกนําเข้ามาในญี่ปุ่นค่ะ ดังนั้นจึงมีสตรอเบอร์รี่ประมาณ 300 สายพันธุ์ในญี่ปุ่นและแต่ละพันธุ์มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันเพื่อสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลาย เช่น ความสมดุลของความหวานและความเป็นกรดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน เช่น บางพันธุ์เป็นสีแดงสดและบางพันธุ์เป็นสีขาว
ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นยังให้ความสําคัญกับการควบคุมคุณภาพและการรักษาความสด ทำให้สตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่นมีมูลค่าสูง ญี่ปุ่นยังคิดค้นภาชนะบรรจุและวิธีการขนส่งของตนเองเพื่อรักษาคุณภาพของสตรอเบอร์รี่ญี่ปุ่น และให้สตรอเบอร์รี่สดแม้จะขนส่งไปต่างประเทศ
ฤดูสตรอว์เบอร์รี่ในญี่ปุ่น
อามะโอ/ (C) สหพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะ
อามะโอ/ (C) สหพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะ
ฤดูสตรอเบอร์รี่คือตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับวิธีการเพาะปลูก ในบางพื้นที่คุณสามารถรับประทานได้จนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเลยค่ะ นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา "สตรอเบอร์รี่ฤดูร้อน" ที่สามารถรับประทานได้ในฤดูร้อนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ฤดูของสตรอเบอร์รี่ภายใต้สภาพแวดล้อมธรรมชาติคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน แต่เนื่องจากมีการเพาะปลูกแบบเร่งโดยใช้เรือนกระจกทำให้โดยปกติจะถูกวางขายในตลาดในฤดูหนาว มีการปรับปรุงวิธีการเพาะปลูกและจัดส่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อตอบสนองความต้องการของเทศกาลคริสต์มาสในเดือนธันวาคม สตรอเบอร์รี่ในช่วงเวลานี้จะมีราคาแพงมากที่สุดเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม สตรอเบอร์รี่มักจะหวานกว่าในสภาพอากาศหนาวเย็น และเป็นกรดมากขึ้นในสภาพอากาศอบอุ่น เนื่องจากเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นก็จะเติบโตเร็วขึ้น และเมื่ออากาศหนาวก็จะเติมโตช้าลง อากาศหนาวเย็นทําให้การเจริญเติบโตช้าลงและช่วยให้เก็บน้ำตาลได้ ซึ่งจะเพิ่มความหวานของสตรอเบอร์รี่ ดังนั้น หากคุณอยากลิ้มรสสตรอเบอร์รี่หวาน ขอแนะนำให้รับประทานในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ
แนะนำพันธุ์สตรอเบอร์รี่ของญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าสตรอเบอร์รี่จะถูกรับประทานทั่วโลก แต่ว่ากันว่าญี่ปุ่นมีการบริโภคสตรอเบอร์รี่ดิบสูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาใหม่และการเพาะพันธุ์อย่างมาก ทำให้มีสตรอเบอร์รี่มากกว่า 300 สายพันธุ์เลยค่ะถึงแม้ว่าสตรอเบอร์รี่จะถูกรับประทานทั่วโลก แต่ว่ากันว่าญี่ปุ่นมีการบริโภคสตรอเบอร์รี่ดิบสูงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาใหม่และการเพาะพันธุ์อย่างมาก ทำให้มีสตรอเบอร์รี่มากกว่า 300 สายพันธุ์เลยค่ะ
10 จังหวัดที่มีผลผลิตสตรอเบอร์รี่สูงสุดในปี 2023 และพันธุ์ชื่อดัง
อันดับ 1 : จังหวัดโทจิงิ (โทจิโอโตเมะ, โทจิฮิเมะ, สกายเบอร์รี่)
อันดับ 2: จังหวัดฟุกุโอกะ (อามะโอ)
อันดับที่ 3: จังหวัดคุมาโมโตะ (ยูเบนิ, ฮิโนะชิสึคุ)
อันดับที่ 4: จังหวัดไอจิ (อากิฮิเมะ)
อันดับที่ 5: จังหวัดชิซุโอกะ (เบนิฮบเปะ, คิราปิกะ)
อันดับที่ 6: จังหวัดนางาซากิ (ยูเมกะ)
อันดับที่ 7: จังหวัดอิบารากิ (โทจิโอโตเมะ)
อันดับที่ 8: จังหวัดชิบะ (โทจิโอโตเมะ, ชินคุ โนะ มิสึซึ)
อันดับที่ 9: จังหวัดซากะ (อิจิโกะซัง, เทนชิ โนะ มิ)
อันดับที่ 10: จังหวัดมิยางิ (โมอิกโกะ)
(อ้างอิง: กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง "ปริมาณการเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี่ตามจังหวัดในปีเรวะที่ 5" https://www.e-stat.go.jp/stat-search/file-download?statInfId=000040235276&fileKind=0)
แต่ละจังหวัดในญี่ปุ่นมีความพยายามในการพัฒนาแบรนด์สตรอเบอร์รี่เป็นอย่างมาก จนมีคำที่เรียกว่า "สงครามสตรอเบอร์รี่" เพื่ออ้างถึงการแข่งขันในการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดุเดือดค่ะ
ด้านล่างนี้คือ 3 พันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดค่ะ
โทจิโอโตเมะ
พันธุ์ที่เพาะปลูกกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดโทจิงิ โดดเด่นด้วยปริมาณน้ำตาลสูง ความเป็นกรดปานกลาง และเต็มไปด้วยน้ำผลไม้มากมาย ผลเบอร์รี่มีขนาดใหญ่มีสีแดงเข้ม มักมีจําหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตในราคาประมาณ 300-600 เยนต่อแพ็ค และเป็นสตรอเบอร์รี่ที่มีราคาไม่แพงนัก
อามะโอ
พันธุ์ที่มีต้นกำเนิดในจังหวัดฟุกุโอกะ ชื่อ "อามะโอ" มาจากคำย่อของ "อะไก (สีแดง), มารุย (กลม), โอกี้ (ใหญ่) และอุไม่ (อร่อย)" ผลมีขนาดใหญ่และบริเวณใกล้ขั้วมีลักษณะโค้งมน มักขายในซูเปอร์มาร์เก็ตในราคาประมาณ 600-1,000 เยนต่อแพ็ค และมักจะมีราคาแพงกว่าสตรอเบอร์รี่พันธุ์อื่น
เบนิฮบเปะ
พันธุ์ที่มักปลูกในจังหวัดชิซุโอกะ นอกจากจะมีสีแดงบนพื้นผิวแล้ว แต่เนื้อในก็ยังมีสีแดงอีกด้วย นอกจากนี้ ยังว่ากันว่าถูกตั้งชื่อว่า "เบนิฮปเปะ (แก้มแดง)" เพราะว่าอร่อยมากจนแก้มหลุดออกมาเลยค่ะ มีขนาดใหญ่กว่าและมีรูปร่างเป็นทรงกรวยยาวกว่าโทจิโอโตเมะ มีรสเปรี้ยวหวานเข้มข้น ราคาขายที่ซูเปอร์มาร์เก็ตจะอยู่ที่ประมาณ 400-800 เยนต่อแพ็ค
ต่อไปเราจะแนะนํา 5 พันธุ์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครค่ะ
สกายเบอร์รี่
พันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นในจังหวัดโทจิงิ ส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่มากกว่า 25 กรัม และมีรูปทรงกรวยที่สวยงาม ภายนอกจะมีความแข็งเล็กน้อยทำให้เก็บไว้ได้นาน และยังเต็มไปด้วยความชุ่มช่ำค่ะ ขอแนะนําให้รับประทานโดยไม่ต้องเอาไปแปรรูปเลย และเนื่องจากมีขนาดใหญ่จึงมักถูกนำไปใช้ในการตกแต่งเค้กและทาร์ตค่ะ
โทคุน
เปลือกมีสีชมพูอ่อนอมขาวและมีกลิ่นหอมคล้ายลูกพีช นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบที่ให้กลิ่นเหมือนมะพร้าวและคาราเมลหวาน ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้น ฤดูของพันธุ์นี้จะค่อนข้างช้ากว่าพันธุ์อื่น โดยจะออกผลมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นอกจากนี้ เนื่องจากเปลือกค่อนข้างนิ่ม ควรเลือกที่ไม่มีรอยช้ำจากการกดทับ แนะนำให้รับประทานสดเพื่อเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมของผลไม้ค่ะ
โยะสึโบชิ
สตรอว์เบอร์รี่ "พันธุ์ที่ขยายพันธุ์ได้จากเมล็ด" ซึ่งต่างจากสตรอว์เบอร์รี่ทั่วไปที่มักขยายพันธุ์โดยใช้ต้น ซึ่งอาจทำให้โรคจากต้นแม่แพร่ไปยังต้นลูกได้ นอกจากนี้ การเก็บรักษาต้นแม่ยังมีต้นทุนและต้องใช้เวลา ดังนั้น "โยะสึโบชิ" ซึ่งสามารถปลูกจากเมล็ดได้จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ ทำให้เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกค่ะ รสชาติมีความเปรี้ยวเล็กน้อย หากผลนิ่มแล้ว สามารถนำไปแปรรูปเป็นแยมหรือซอสได้อีกด้วยค่ะ
เทนชิ โนะ มิ
จุดเด่นที่สุดของพันธุ์นี้คือผลสีขาว และขนาดใหญ่โดยเฉลี่ย 60 กรัมต่อลูก ทำให้รับประทานได้อย่างจุใจ แม้ว่าจะเป็นสีขาว แต่มีรสหวานอ่อนๆ และมีความเปรี้ยวเล็กน้อยค่ะ พันธุ์นี้ถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นพันธุ์ใหม่ในปี 2014 และถูกผลิตในเฉพาะที่เมืองคะระสึ จังหวัดซากะเท่านั้น
ชินคุ โนะ มิสึซึ
ลักษณะเด่นคือสีแดงเข้มจนเกือบดำ จึงถูกเรียกว่า "สตรอว์เบอร์รี่สีดำ" พันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในจังหวัดชิบะ และขึ้นทะเบียนเป็นพันธุ์ในปี 2015 มีระดับความหวานสูงและมีความเปรี้ยวต่ำ ทำให้มีรสชาติที่เข้มข้น สีแดงเข้มเกิดจากสารแอนโทไซยานิน ซึ่งมีปริมาณมากกว่าสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ "โทจิโอโตเมะ" มากถึง 3 เท่า เนื่องจากภายนอกค่อนข้างแข็ง ทำให้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน
วิธีการเลือกสตรอเบอร์รี่แสนอร่อย
ต่อไปจะขอแนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อสตรอเบอร์รี่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตค่ะ
- สีแดงทั้งลูก
- ผิวตึงและเงางาม
- ขั้วสีเขียวสด
- เมล็ดบนผิวมีความชัดเจน
มาดูรายละเอียดกันดีกว่าค่ะ
เมื่อสตรอว์เบอร์รี่สุกเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด หากสีของผิวไม่แดงทั่ว อาจมีปริมาณน้ำตาลต่ำหรือมีรสเปรี้ยวมากค่ะ ดังนั้น ควรเลือกผลที่มีสีแดงสดสม่ำเสมอ นอกจากนี้ สตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่มักจะช้ำง่าย ดังนั้นโดยทั่วไปจึงถูกเก็บเกี่ยวและวางขายในขณะที่ยังมีส่วนที่เป็นสีขาวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หากเปลือกมีสีขาวเด่นชัด อาจเป็นไปได้ว่าถูกเก็บเกี่ยวเร็วเกินไป ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงสตรอว์เบอร์รี่แบบนั้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม บางสายพันธุ์อาจมีสีขาวหรือสีอ่อนแม้จะสุกเต็มที่แล้ว ควรตรวจสอบลักษณะของพันธุ์และสีของผลเมื่อสุกก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
สตรอว์เบอร์รี่ที่สดใหม่จะมีผิวตึงและมีความเงา แม้ว่าจะมีสีแดง แต่ถ้าผิวดูเหี่ยวหรือขาดความตึง อาจไม่สดมากพอ พันธุ์ที่มีสีขาว สีชมพู หรือสีดำก็ควรใช้หลักการเดียวกันในการเลือกค่ะ
ใบขั้วควรเป็นสีเขียวสดและตั้งตรง ไม่เหี่ยวเฉาหรือห้อยลง นอกจากนี้ เมล็ดที่อยู่บนเปลือกควรมีลักษณะเด่นชัด หากเมล็ดจมหรือแบนลง อาจหมายถึงผลเริ่มเสื่อมสภาพลงค่ะ อย่าลืมตรวจสอบว่ามีรอยช้ำหรือสีผิดปกติหรือไม่ เพื่อให้ได้สตรอว์เบอร์รี่ที่สดและอร่อยที่สุดค่ะ
วิธีการสนุกไปกับสตรอเบอร์รี่: (1) เก็บสตรอเบอร์รี่
กิจกรรมเก็บสตรอว์เบอร์รี่เป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว โดยทั่วไปจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์กินไม่อั้นภายในเวลา 30 หรือ 45 นาที หรือบางฟาร์มสามารถเก็บผลไม้กลับไปเป็นของฝากได้ด้วยค่ะ
โดยปกติ ฤดูที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บสตรอว์เบอร์รี่คือช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม เนื่องจากอากาศหนาวทำให้ผลสตรอว์เบอร์รี่เย็นสดชื่นและอร่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บสตรอว์เบอร์รี่ได้จนถึงเดือนพฤษภาคมหรือมิถุนายนในบางพื้นที่หรือฟาร์ม ฤดูของสตรอว์เบอร์รี่จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเดินทางไปเที่ยวว่าฤดูของพันธุ์นั้นๆ คือช่วงไหนค่ะ
นอกจากนี้ ฟาร์มบางแห่งยังมีพันธุ์สตรอว์เบอร์รี่ให้ลองชิมหลายชนิด ทำให้คุณสามารถเปรียบเทียบรสชาติและเลือกพันธุ์ที่ชอบได้ค่ะ
ยิ่งไปกว่านั้น ฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่สมัยใหม่เริ่มใช้ระบบปลูกแบบ "ไฮโดรโปนิกส์" ซึ่งจะยกที่ปลูกให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น ทำให้ไม่ต้องก้มเวลาหยิบ ช่วยลดความเมื่อยล้าค่ะ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มที่ใช้ระบบ "ปลูกแบบไม่ใช้ดิน" ทำให้สามารถเดินเล่นในฟาร์มได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นดินเลอะเทอะอีกด้วยค่ะ
วิธีการสนุกไปกับสตรอเบอร์รี่: (2) ขนมหวานจากสตรอเบอร์รี่
คุณยังสามารถสนุกสนานไปกับบุฟเฟต์ขนมสตรอว์เบอร์รี่ ไม่ว่าจะเป็นเค้กสตรอว์เบอร์รี่ พาร์เฟ่ต์ แซนด์วิชไส้สตรอว์เบอร์รี่ ไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ หรือสตรอว์เบอร์รี่เคลือบน้ำตาล ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านเบเกอรี่ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ร้านสะดวกซื้อค่ะ
ขนมหวานที่มีส่วนผสมของสตรอว์เบอร์รี่ เช่น คุกกี้ มาการอง หรือช็อกโกแลต มักจะมีอายุการเก็บรักษานาน ทำให้เหมาะสำหรับซื้อติดไม้ติดมือไปเป็นของฝากค่ะ
มาเพลิดเพลินกับฤดูกาล "สตรอว์เบอร์รี่" ของญี่ปุ่น ผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกกันเถอะ!
เอกสารอ้างอิง:
กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง "AFF" ฉบับเดือนธันวาคม เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2019 (วันที่อ้างอิง: 5 มกราคม 2025)
https://www.maff.go.jp/j/pr/aff/1912/spe1_02.html
วากาซะ เซคัตสึ "ความลับของวากาซะ" อ้างอิงล่าสุดเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2018 (วันที่อ้างอิง 5 มกราคม 2025)
https://himitsu.wakasa.jp/contents/strawberry/
โบเอกิ ดอท คอม "ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศของสินค้าแต่ละประเภท" อ้างอิงล่าสุดวันที่ 29 พฤศจิกายน 2024 (วันที่อ้างอิง: วันที่ 5 มกราคม 2025)
https://boueki.standage.co.jp/strawberry/
เว็บไซต์ข้อมูลผัก Fruit Navi (วันที่อ้างอิง: 5 มกราคม 2025)
https://www.kudamononavi.com/lists/strawberry

