เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์และความไม่เหมือนใครของเมืองท่า "นางาซากิ" กับอาหารรสเลิศ แหล่งท่องเที่ยว และหนึ่งในสามทิวทัศน์ยามค่ำคืนแห่งใหม่ที่สวยที่สุดในโลก!

ญี่ปุ่นมีจุดชมวิวยามค่ำคืนมากมายค่ะ และในบรรดาจุดชมวิวเหล่านั้น จุดชมวิวยามค่ำคืนของนางาซากิได้ถูกเลือกให้เป็น "สามทิวทัศน์ยามค่ำคืนแห่งใหม่ที่สวยที่สุดในโลก" และ "สามทิวทัศน์ยามค่ำคืนแห่งใหม่ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น" ค่ะ และยังถูกเรียกว่าเป็น "ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มีมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์" อีกด้วยค่ะ หากจะชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนของนางาซากิแล้วละก็ จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือภูเขาอินาซะซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 333 เมตรค่ะ หลังจากเดินทางมาถึงสวนสาธารณะอินาซะยามะด้วยรถบัสจากสถานีนางาซากิแล้ว ก็สามารถนั่งรถรางสโลปคาร์ หรือเดิน (ประมาณ 15 นาที) ขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ยอดเขาได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนั่งรถบัสจากสถานีนางาซากิไปยังศาลเจ้าฟุชิ และขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปยังยอดเขาอินาซะได้อีกด้วยค่ะ

นางาซากิถูกล้อมรอบด้วยภูเขา มีเนินเป็นจำนวนมากและไม่ค่อยมีพื้นที่ราบ ทำให้มีลักษณะเด่นคือภูมิประเทศที่มีรูปทรงเหมือนชาม และลักษณะเด่นนี้ยังทำให้วิวยามค่ำคืนของที่นี่ดูมีมิติอีกด้วยค่ะ เมืองนางาซากิทั้งเมืองจะส่องแสงสวยงามไปด้วยแสงไฟระยิบระยับที่ทอดยาวจากเนินเขาไปจนถึงท่าเรือ ซึ่งดูเหมือนดั่งกล่องอัญมณีที่ทำให้คุณรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิตได้ รับรองว่าคุณจะต้องหลงไหลไปกับวิวทิวทัศน์สุดอลังการนี้เมื่อได้ชมแสงไฟส่องประกายสว่างไสวด้วยตาคุณเองแน่นอน เหมาะสมที่จะเรียกว่า "ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มีมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์" เลยค่ะ แน่นอนว่าทิวทัศน์ในตอนกลางวันก็สวยงามอย่างมากเช่นกันค่ะ ในวันที่อากาศดีคุณจะสามารถมองเห็นไปได้ถึงหมู่เกาะโกะโต, อุนเซ็น, เกาะกุนคัง และอามาคุสะที่คุมาโมโตะได้ด้วยค่ะ

สะพานเมงาเนะของนางาซากินั้นเป็นหนึ่งใน "สามสะพานขึ้นชื่อของญี่ปุ่น" และเป็นสะพานหินโค้งที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงเหลืออยู่ในญี่ปุ่นค่ะ นอกจากนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติอีกด้วย กล่าวกันว่าถูกสร้างโดยพระโมคุสุ เนียวโจแห่งวัดโคฟุคุจิค่ะ

มาชมสะพานเมงาเนะจากมุมต่างๆ ไม่ว่าจะจากข้างบนหรือข้างล่าง หรือมองจากไกลๆ หรือใกล้ๆ กันค่ะ หากแสงอาทิตย์อยู่เหนือสะพานก็จะเกิดภาพสะท้อนของครึ่งวงกลมทั้ง 2 บนผิวน้ำ ทำให้เกิดเป็นรูปวงกลมที่ดูเหมือนแว่น และนี่คือที่มาของชื่อสะพานเมงาเนะ (สะพานแว่น) ค่ะ อีกหนึ่งวิธีการสนุกไปกับสะพานเมงาเนะคือการตามหาหินรูปหัวใจที่ถูกซ่อนอยู่ภายในสะพานหิน ว่ากันว่าจะนำโชคดีมาให้กับผู้ที่หาเจอค่ะ!

เมื่อพูดถึงอาหารรสเลิศของนางาซากิแล้ว ก็ต้องห้ามพลาดจัมปงและซาระอุด้งค่ะ จัมปงประกอบไปด้วยส่วนผสมต่างๆ เช่นอาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก และคามาโบโกะ กล่าวกันว่าถูกคิดค้นขึ้นมาในศตวรรษที่ 19 โดยร้านอาหารจีนในเมืองนางาซากิ และมีจุดเด่นคือเส้นหนาเหนียวนุ่ม น้ำซุปมีทั้งที่ทำมาจากกระดูกไก่และกระดูกหมู และเมื่อเติมพริกไทยเพิ่มลงไปแล้วก็จะสามารถสัมผัสถึงความหวานของน้ำซุปได้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ส่วนประกอบที่ใช้ทำซาระอุด้งนั้นเหมือนกับจัมปงมากค่ะ ในปัจจุบันมีแบบที่ใช้เส้นหนาเช่นเดียวกับจัมปง และแบบที่นำเส้นเล็กไปทอดกรอบ ความกรอบของเส้นเล็กอร่อยมากค่ะ ทำให้เป็นเมนูรสเลิศที่หากได้ลิ้มรสชาติแล้ว ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน

มิลค์เชคมีต้นกำเนิดในช่วงไทโชตอนปลาย (ค.ศ.1912-1926) ถึงช่วงโชวะตอนต้น (ค.ศ.1926-1989) มิลค์เชคที่นางาซากิไม่ใช่สำหรับแค่ดื่มเท่านั้นแต่เป็น "มิลค์เชคที่ทานได้" ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้เหมือนของหวาน โดยใช้ส่วนผสมง่ายๆ ได้แก่นม ไข่ น้ำตาล นมข้น และน้ำแข็ง รสชาติที่เรียบง่ายนี้จะชวนให้ย้อนนึกถึงอดีตค่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มก็ตาม แต่เนื้อสัมผัสของเชคจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังทานขนมหวานอยู่เลย ถ้าดื่มในวันที่อากาศร้อนแล้วละก็รับรองว่าจะต้องรู้สึกสดชื่นลืมร้อนไปเลยค่ะ!

ถึงแม้จะมีคำว่า "ตุรกี" อยู่ในชื่อก็ตาม แต่ข้าวตุรกีมีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น และเมนูที่ผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นและตะวันตก โดยส่วนใหญ่จะนำคัตสึ (หมูทอด) มาวางบนสปาเก็ตตี้นโปเลียน (นโปลิตัน) หรือข้าวพิลาฟ ทำให้ดูเหมือนกับ "เมนูเด็กสำหรับผู้ใหญ่" เลยค่ะ นอกจากจะอิ่มท้องสำหรับผู้ใหญ่แล้ว ยังเติมเต็มความอยากของนักกินอีกด้วย อย่างไรก็ตามเมนูนี้มีหลากหลายรูปแบบ บางร้านอาจจะใช้กุ้งทอด (เอบิฟราย) หรือสเต๊กแทนคัตสึ และบางร้านก็อาจจะเสิร์ฟข้าวพิลาฟรสแกงกะหรี่ค่ะ

หากได้มาเที่ยวในตัวเมืองนางาซากิ นอกจากจะไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วก็ห้ามพลาดมาช้อปปิ้งกันอย่างเต็มที่ค่ะ! "ยูเมะทาวน์ ยูเมะไซโตะ" เป็นศูนย์การค้าที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งสามารถเดินไปจากสถานีนางาซากิได้เพียงแค่ 10 นาที โดยเป็นอาคาร 5 ชั้นที่มีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น และชั้นบนดิน 4 ชั้นค่ะ ที่นี่เป็นศูนย์การค้าที่ได้รวบรวมทุกอย่างมาไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน สินค้าเบ็ดเตล็ด เสื้อผ้า อนิเม ของเล่น ไปจนถึงแบรนด์หรูค่ะ

ร้านเสื้อผ้าที่ห้ามพลาดหากได้มาเที่ยวญี่ปุ่น หรือร้านคัสเตลลานางาซากิชื่อดังก็มารวมอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ นอกจากนี้ ยังมีร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ร้าน 100 เยน และร้าน 300 เยน ทำให้มาที่นี่ที่เดียวก็มีทุกอย่างให้ครบเลยค่ะ

หากคุณต้องการซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับประเทศ "ยูเมะทาวน์ ยูเมะไซโตะ" ก็ยังมีร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ตอีกด้วยค่ะ คุณสามารถหาซื้อทุกอย่างได้ที่นี่ ตั้งแต่ของฝากที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของนางาซากิ ไปจนถึงยาหรือเครื่องสำอางที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาญี่ปุ่นค่ะ หลังจากชำระเงินเสร็จแล้ว อย่าลืมนำสินค้าที่ซื้อทั้งหมดไปยังศูนย์บริการลูกค้าที่ชั้น 3 เพื่อทำเรื่องยกเว้นภาษีกันนะคะ!

ขอแนะนำร้านขายสินค้าแบรนด์เนม "XSELL" ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทันทีเมื่อเดินเข้าประตูทางเข้าที่ชั้น 1 โดยปกติหากจะซื้อสินค้าแบรนด์เนม คุณจะต้องเดินวนดูแต่ละร้านด้วยตัวเอง แต่ "XSELL" ได้รวบรวมสินค้าต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน ตั้งแต่เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ แว่นกันแดด ไปจนถึงน้ำหอม ไปที่นี่ที่เดียวก็สามารถหาซื้อสินค้าได้อย่างครบถ้วนเลยค่ะ

ที่นี่มีสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักค่ะ ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงที่มาหาซื้อกระเป๋าให้เป็นรางวัลแก่ตัวเอง หรือคุณผู้ชายที่มาหาซื้อแว่นดันแดดหรือนาฬิกาข้อมูล รับรองว่าหากได้เดินวนดูในร้านสักรอบแล้วละก็จะต้องพบกับสินค้าที่ถูกใจแน่นอน นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่เพียงสินค้าใหม่เท่านั้น ภายในร้านยังมีสินค้ามือสองวางขายอยู่ ทำให้คุณสามารถซื้อสินค้าที่ต้องการได้ในราคาที่เหมาะสมอีกด้วยค่ะ!