【ของอร่อยในญี่ปุ่น】ตระเวนล่าหาอาหารท้องถิ่นเกรด B: ฉบับ "ฟุกุโอกะ"

ของอร่อยเกรด B ต่างจากของอร่อยเชิงท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนของพื้นที่ท้องถิ่น ของอร่อยเกรด B ไม่ได้ใช้เทคนิคหรือการตกแต่งที่หรูหราเพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว เพียงปรุงด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นจนเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่คนในท้องถิ่นมาช้านาน กล่าวคือ ทำจากเป็นวัตถุดิบในท้องถิ่นที่ราคาไม่แพง แต่ยังเรียกว่าของอร่อยนั่นเองค่ะ

จุดเด่นของของอร่อยในฟุกุโอกะก็คือการใช้วัตถุดิบสดใหม่มากมาย ท่าเรือประมงทางตอนเหนือนั้นก็ยังอยู่ติดกับทะเลเก็นไค (玄界灘 / Genkai-nada) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งตกปลาชั้นนำของโลก ชาวฟุกุโอกะที่โตมากับอาหารทะเลและผักตามฤดูกาลล้วนกลายเป็นนักชิมที่ชอบของอร่อยไปในตัว คงไม่จำเป็นต้องบอกนะคะว่าพลังความอร่อยของของอร่อยในฟุกุโอกะก็คือเพื่อเป็นการตอบสนองต่อต่อมรับรสของคนฟุกุโอกะที่มีรสนิยมการกินนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ของอร่อยในตำนานจึงค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นทีละอย่างค่ะ

เมื่อพูดถึงของอร่อยแบบคลาสสิกของฟุกุโอกะ สิ่งที่คนมักจะนึกถึงกันก็คือราเมนทงคตสึที่หลากหลาย มิซึทากิรสเข้ม และหม้อไฟเครื่องในมตสึนาเบะที่ปรุงแต่งอย่างเข้มข้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ดิชั้นอยากจะแนะนำในครั้งนี้คือ ของอร่อยเกรด B ที่คนในพื้นที่ชื่นชอบกันค่ะ

"ฮาจิมังเกี๊ยวซ่า" (八幡餃子 / Yahata Gyoza) ของอำเภอคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งใน "สามเกี๊ยวซ่าแห่งญี่ปุ่น" ครองตำแหน่งร่วมกับ "อุตสึโนะมิยะเกี๊ยวซ่า" (Utsunomiya Gyoza) ของจังหวัดโทจิงิ และ "ฮามะมัตสึเกี๊ยวซ่า" (浜松餃子 / Hamamatsu Gyoza) ของจังหวัดชิซุโอกะค่ะ เป็นของอร่อยเกรด B ที่เกิดเพื่อตอบสนองความหิวของคนงานค่ะ

ลักษณะเด่นของฮาจิมังเกี๊ยวซ่าคือการใส่เกี๊ยวซ่าที่อบใหม่ ๆ ลงบนหม้อเหล็กร้อน ถึงแม้ว่าจะกระตุ้นประสาทสัมผัสของรูป เสียง และกลิ่น แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยรสอร่อยทันทีที่นำมันเข้าปาก นอกจากนี้ หม้อเหล็กยังช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับเกี๊ยวซ่าร้อน ๆ ได้จนถึงคำสุดท้าย ทั้งรูปลักษณ์ กลิ่นหอม และรสชาติ ทุกอย่างล้วนสมบูรณ์แบบเลยค่ะ

เมื่อพูดถึงอาหารจำพวกเส้นในฟุกุโอกะ คนส่วนใหญ่คงพูดว่า “ทงคตสึราเม็ง!” แต่อย่างไรก็ตาม “อาหารพื้นเมือง” ที่คนในท้องถิ่นชื่นชอบ แท้จริงแล้วก็คือ “อุด้ง” ค่ะ

มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของอุด้งญี่ปุ่น แต่หนึ่งในนั้นก็มีฮากาตะด้วย ฮากาตะอุด้งแตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ตรงที่มี "ความนุ่มไม่เหนียว" และ "น้ำซุปรสจืด" ดังนั้นมันจึงสามารถกินได้ง่ายและอาจจะกินหมดโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ นอกจากอุด้งแล้ว "เทมปุระรากหญ้าเจ้าชู้" (ごぼ天 / gobo-ten) และเทมปุระทรงกลมที่เรียกว่า "มารุเต็น" (丸天 / maru-ten) ก็เป็นส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ หากเพิ่ม "คาชิวะโอนิกิริ" (かしわおにぎり / kashiwa onigiri) เป็นเมนูตบท้าย ก็จะกลายเป็นชุดฮากาตะอุด้งของแท้เลยค่ะ

มองผ่าน ๆ อาจจะดูเหมือนยากิโทริธรรมดา แต่เมนูในร้านก็ไม่ได้มีแค่ไก่ หมู และเนื้อวัวเท่านั้น แต่ยังมีอาหารทะเลเสียบไม้ที่หายากอีกด้วย! ยิ่งกว่านั้นทันทีที่คุณนั่งที่ร้าน กะหล่ำปลีพร้อมซอสจะถูกนำมาเสิร์ฟ การสั่งอาหารขณะกินกะหล่ำปลีนั้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฟุกุโอกะค่ะ

ร้านอาหารส่วนใหญ่มีกะหล่ำปลีให้กินได้ไม่อั้นฟรี ความนุ่มจะช่วยเปลี่ยนรสชาติให้สดใหม่เสมอ จนแม้จะอิ่มแล้วก็ยังสามารถกินยากิโทริได้อีกหลายไม้เลยค่ะ! ยิ่งรายล้อมด้วยบรรยากาศร้านที่คึกคัก ความอร่อยก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณเลย

"เมนไทโกะ" (明太子 / mentaiko) กลิ่นหอมกรุ่นก็เป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อของฟุกุโอกะเช่นกัน เมื่อถูกห่อด้วยไข่เจียวนุ่ม ๆ ก็จะกลายเป็น "เมนไททามาโกะยากิ" (明太玉子焼 / mentai tamagoyaki) อาหารจานสุดหรูนี้เป็นอาหารรสเลิศที่สามารถลิ้มรสได้เฉพาะในฟุกุโอกะที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเมนไทโกะเท่านั้นค่ะ

วิธีการทำเมนไททามาโกะยากิก็ขึ้นอยู่กับร้านด้วย ที่ฟุกุโอกะก็ไม่ได้มีแค่ดาชิมากิทามาโกะ (だし巻き卵 / dashi makitamago ไข่ม้วนจุ่มดาชิ) ที่คนคุ้นเคยเท่านั้น แต่ยังมี อุสุอาเกะทามาโกะยากิ (薄揚げ玉子焼き / usu age tamagoyaki - ไข่เจียวยางมะตูมใส่ต้นหอม) อีกด้วย ทั้งสองเมนูก็ใช้เมนไทโกะทั้งก้อนค่ะ สำหรับผู้ที่ชอบเมนไทโกะ ขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมร้านต่าง ๆ และเพลิดเพลินกับเมนไทโกะทามาโกะยากิสูตรต่าง ๆ ดูค่ะ

ในปี 1968 เมื่อร้าน "Fugetsu" ได้เปลี่ยนจากร้านกาแฟมาทำเป็นร้านอาหารตะวันตก ทางร้านก็คิดค้นเมนูราคาถูกและอร่อย และ "Beef Butter Yaki" (ビーフバター焼き) นี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยการวางเนื้อผัดในเนยและซอสสูตรดั้งเดิมบนกระทะเหล็กพร้อมกับพาสต้า จากนั้นราดซอสซ้ำอีกครั้ง ก็จะกลายเป็นของอร่อยท้องถิ่นที่น่ารับประทานค่ะ

อนึ่ง เหตุผลที่เสิร์ฟอาหารจานนี้บนกระทำเหล็กก็คือ จานกระทะเหล็กเท็ปปันนั้นหายากในสมัยนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่นี้ เนื้อย่างเนยจึงกลายเป็นของอร่อยมยอดนิยมที่คนรู้จักกันไปทั่วค่ะ

ยูเมะยูเมะโดริ (努努鶏 / yumeyumedori) ว่าง่าย ๆ ก็คือ "ไก่ทอดคาราอาเกะ" ที่กินแบบเย็นได้ค่ะ อาหารเลิศรสนี้คิดค้นโดยผู้ก่อตั้งซึ่งกำลังมองหาความแปลกใหม่ของตัวเองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จากการเที่ยวตระเวนไปทั่วญี่ปุ่น เลยได้ข้อสรุปว่า "ลองทำอาหารทอดที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนเลยดูดีกว่า"

ยูเมะยูเมะโดริต่างจากไก่ทอดทั่วไปตรงที่ชุบแป้งโดยตรงโดยไม่ปรุงรส จากนั้นใช้เวลาทอดช้า ๆ ดังนั้นแม้ปล่อยทิ้งไว้สักพักก็จะไม่ส่งผลต่อเนื้อสัมผัสหรือรสชาติค่ะ ลักษณะเด่นที่สุดของยูเมะยูเมะโดริคือมีรสอร่อยแม้จะเย็นแล้วก็ตาม ตามคำกล่าวของบรรดาผู้ที่คุ้นเคยกับเสน่ห์ของไก่ทอดนี้แล้ว ไม่มีอะไรเกินจริงที่จะบอกว่ายูเมะยูเมะโดริเป็นอาหารว่างที่ดีที่สุดที่จะแกล้มกับเบียร์ค่ะ!