ราชาแห่งอาหารรสเลิศในฤดูหนาวของญี่ปุ่น! ปูยอดนิยม 6 ชนิด

แหล่งผลิตปูในญี่ปุ่นถูกแบ่งออกเป็น 3 พื้นที่หลักๆ ได้แก่ ฮอกไกโด โฮคุริคุ และซันอินค่ะ
ถึงแม้หลายท่านจะทราบว่าฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลรสเลิศก็ตาม แต่ก็คงมีหลายท่านที่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับภูมิภาคโฮคุริคุและซันอินค่ะ
ภูมิภาคซันอิน คือ บริเวณทางเหนือของเทือกเขาชูโกกุซึ่งหันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่น โดยจังหวัดทตโตริและจังหวัดชิมาเนะเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตปูค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ปูมัตสึบะ" และ "ปูซุไว" นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารประจำฤดูหนาวค่ะ
ส่วนภูมิภาคโฮคุริคุนั้นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ประกอบด้วยจังหวัดต่างๆ เช่น ฟุกุอิ โทยามะ และอิชิคาวะ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่หันหน้าเข้าหาทะเลญี่ปุ่นซึ่งมีน้ำนิ่งและอุณหภูมิต่ำ ทำให้สามารถจับปูที่มีคุณภาพสูงได้ เช่น ปูคะโนของจังหวัดอิชิคาวะ และปูเอจิเซ็นของจังหวัดฟุกุอิค่ะ
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่ถูกล้อมรอบด้วยทะเลทั้ง 3 ได้แก่ ทะเลโอคอตสค์ มหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลญี่ปุ่น ทำให้มีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่มากมาย ถึงแม้ว่าจะมีสัตว์พวกกุ้งกั้งปูหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ก็ตาม แต่ปูก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะอาหารรสเลิศในฤดูหนาวค่ะ

ถึงแม้ว่าจะมีปูหลากหลายประเภทก็ตาม แต่ปูทาราบะซึ่งถูกเรียกว่า "ราชาแห่งปู" นั้นมีขนาดใหญ่มาก โดยบางตัวมีความยาวมากกว่า 1 เมตรเลยทีเดียวค่ะ
เนื่องจากเป็นปูที่อาศัยอยู่ในทะเลที่มีอุณหภูมิต่ำทำให้ทะเลโอคอตสค์เป็นแหล่งผลิตหลัก ดังนั้น ปูทาราบะส่วนใหญ่ที่วางขายในญี่ปุ่นนั้นจึงเป็นปูที่ถูกนำเข้ามาจากรัสเซีย และฮอกไกโดจึงเป็นเพียงจังหวัดเดียวในญี่ปุ่นที่สามารถจับปูทาราบะได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าเรือวักกะไนซึ่งเป็นท่าเรือที่อยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นท่าเรือที่สามารถจับสัตว์ทะเลได้เยอะค่ะ
ถึงแม้ว่าตอนจับได้จะมีสีน้ำตาลหม่นก็ตาม แต่เมื่อโดนความร้อนแล้วเปลือกก็จะเป็นเปลี่ยนเป็นสีแดงสด และด้านท้องก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาว ทำให้ถือว่าเป็นสีมงคล (สีแดงขาว) และถูกส่งเป็นของขวัญ และนำมารับประทานเป็นอาหารมงคลในวันขึ้นปีใหม่ค่ะ
จะมีฤดูปูทาราบะทั้งหมด 2 ครั้ง คือตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม และตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ

ปูอาบุระอาศัยอยู่ในทะเลญี่ปุ่น ทะเลเบริง และทะเลโอคอตสค์ โดยมีความยาวของกระดองกว่า 20 เซนติเมตร ทำให้เป็นปูที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับปูทาราบะค่ะ นอกจากนี้ เนื่องจากมีฤดูจับที่นานกว่าปูทาราบะทำให้มีราคาที่ถูกกว่าและหาซื้อได้ง่ายกว่าอีกด้วย ถึงแม้จะถูกกล่าวว่ารสชาติไม่อร่อยเท่าปูทาราบะก็ตาม แต่ถ้าหากเป็นปูที่สดก็จะอร่อยเหมือนกับปูทาราบะเลยค่ะ ขอแนะนำสำหรับคนรักปูที่อยากรับประทานเยอะๆ นะคะ

ปูซุไวเป็นปูที่มีขนาดเล็กกว่าปูทาราบะค่ะ ถึงแม้จะเป็นปูตัวผู้ขนาดใหญ่ก็ตาม ก็จะมีขนาดแค่ 70 เซนติเมตรเมื่อกางขาออกค่ะ ปูซุไวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในทะเลลึกของทะเลญี่ปุ่นที่ความลึก 200 เมตร ถึง 400 เมตรขึ้นไปค่ะ
จุดเด่นของปูซุไวนั้นคือความหวานและความอร่อยของเนื้อ และมันปูที่เข้มข้นค่ะ ดังนั้น หลังจากรับประทานเนื้อสดๆ หรือเนื้อต้มแล้ว ยังขอแนะนำให้นำมันปูไปทำข้าวต้ม อาหารต้ม พาสต้า หรือกราแตงค่ะ
นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วปูซุไวตัวผู้กับตัวเมียจะมีชื่อเรียกที่ต่างกัน และยังมีลักษณะเด่นคือชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าจับได้ที่ไหนอีกด้วยค่ะ ปูตัวผู้ที่จับได้ที่เกียวโต เฮียวโกะ หรือทตโตริจะเรียกว่า "ปูมัตสึบะ" ส่วนปูตัวผู้ที่จับได้ที่ภูมิภาคโฮคุริคุจะเรียกว่า "ปูเอจิเซ็น" ค่ะ สำหรับปูตัวเมียนั้นจะมีชื่อเรียกต่างๆ เช่น ปูเซโคะ ปูโอยะ ปูโคบะโคะ ปูโคะโมจิ (ปูมีลูก) ฯลฯ คุณจะต้องติดใจกับความอร่อยของไข่ปูจำนวนมากที่อยู่ในท้องและมันปูรสชาติเข้มข้นอย่างแน่นอนค่ะ
ฤดูของปูซุไวจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม และเป็นอาหารประจำฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมทั่วญี่ปุ่นค่ะ

ปูขน หรือ "ปูโอคุริ" นั้นเป็นปูที่ลำตัวส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยขนค่ะ โดยทั่วไปปูขนจะมีน้ำหนักประมาณ 400 - 600 กรัม ถึงแม้จะเป็นปูตัวใหญ่ก็ตามก็จะมีน้ำหนักแค่ 700 - 900 กรัม ทำให้เป็นปูที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับปูชนิดอื่นค่ะ ปูขนที่วางขายบนเว็บไซต์นั้นจะถูกจัดอันดับและกำหนดราคาตามน้ำหนักค่ะ
เนื่องจากมีรสชาติอร่อยและราคาไม่แพง ทำให้เป็นปูที่มักถูกนำมาใช้ในอาหารญี่ปุ่นค่ะ ลำตัวที่ขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อนั้นยังเต็มไปด้วยมันปูที่เข้มข้นอีกด้วย
นอกจากนี้ หลังจากแกะเปลือกเสร็จแล้ว เรายังขอแนะนำให้นำเปลือกมาต้มทำเป็นน้ำซุปด้วยค่ะ! จะนำไปทำเป็นซุปมิโซะหรือข้าวต้มก็อร่อยได้เหมือนกันเลยค่ะ

ปูฮานาซากิซึ่งอาศัยอยู่ในเนมุโระ จังหวัดฮอกไกโดนั้นถูกเรียกว่า "ปูในตำนาน" เนื่องจากเป็นปูที่หายากและสามารถจับได้เฉพาะในบางพื้นที่ของโดโตเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในวงศ์ปูทาราบะก็ตาม แต่ว่าเป็นปูขนาดเล็กที่มีความยาวของกระดองเพียงแค่ประมาณ 15 เซนติเมตรเท่านั้น ปูฮานาซากินั้นถูกตั้งชื่อตามท่าเรือที่ถูกจับได้ และสีแดงเมื่อนำมาปรุงอาหารค่ะ (ฮานาซากิ แปลว่าดอกไม้บาน)
เมืองเนมุโระจะจัดงานเทศกาล "เนมุโระคานิมัตสึริ (เทศกาลปูเนมุโระ)" ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนในทุกปีเพื่อฉลองการเริ่มต้นฤดูปูฮานาซากิค่ะ โดยจะมีปูหลากหลายรูปแบบให้ได้ลิ้มลองกัน ไม่ว่าจะเป็น ปูต้มหรืออาหารรสเลิศต่างๆ ที่ใช้ปูฮานาซากิค่ะ

ปูแมงมุมญี่ปุ่นเป็นปูยักษ์ที่อาศัยอยู่ที่ทะเลลึกบริเวณใกล้ๆ ญี่ปุ่นค่ะ
โดยจะมีขนาดใหญ่ถึง 4 เมตรเมื่อกางขาออกทั้ง 2 ข้าง ทำให้เป็นสัตว์พวกกุ้งกั้งปู (ครัสเตเชียน) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เนื่องจากอาศัยอยู่ใต้ทะเละลึกและยากที่จะนำมาปรุงอาหาร ทำให้เป็นที่รู้จักในฐานะอาหารแปลกค่ะ
ในบรรดาจังหวัดต่างๆ จังหวัดชิซุโอกะมีปริมาณการจับปูแมงมุมญี่ปุ่นมากที่สุด และที่บริเวณเฮดะซึ่งหันหน้าเข้าหาอ่าวทสึรุกะนั้นมีร้านอาหารและร้านเฉพาะทางที่สามารถลิ้มรสซาชิมิปูแมงมุมญี่ปุ่นหรือปูต้มได้ด้วยค่ะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเพลิดเพลินไปกับปูนั้น คือ การเลือกสายพันธุ์ที่จะรับประทาน และจะใช้วิธีการปรุงรสแบบไหนค่ะ
ราชาปู "ปูทาราบะ" นั้นมีลักษณะเด่นคือเนื้อปูที่หนาแน่นและเนื้อสัมผัสที่อวบอิ่ม ดังนั้น จึงขอแนะนำให้นำไปทำเป็นปูย่างหรือปูต้ม หรือนำไปรับประทานเป็นชาบูชาบูกับผักและเต้าหู้ค่ะ ส่วนปูซุไวที่มีรสชาติหวานนั้น นอกจากจะแนะนำให้นำไปทำเป็นปูต้มแล้ว ยังขอแนะนำให้ลองนำปูที่สดมาทำเป็นซาชิมิดูนะคะ
นอกจากนี้ "มันปู (คานิมิโซะ)" ก็ยังได้รับความนิยมที่ญี่ปุ่นพอๆ กับเนื้อปูเลยทีเดียวค่ะ! ปูขนที่มีขนาดเล็กและราคาถูกนั้นจะเต็มไปด้วยมันปูแสนอร่อย ถึงแม้จะสามารถนำมารับประทานได้โดยไม่ต้องปรุงก็ตาม แต่เรายังขอแนะนำเมนูกระดองปูย่างซึ่งนำมันปูมาย่างด้วยกระดองปู หรือนำไปทำหม้อไฟ พาสต้า หรือกราแตงอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ หลังจากรับประทานเนื้อปูเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมนำกระดองปูมาต้มเป็นน้ำซุปสุดอร่อย และนำไปทำเป็นหม้อไฟ ข้าวต้ม และซุปมิโซะด้วยนะคะ