JCB Service
Culture

จัดดอกไม้ ชงชา ดมเครื่องหอม 3 สุนทรียศาสตร์ญี่ปุ่นแห่งความพิถีพิถัน

ชาวอาทิตย์อุทัยดำรงวิถีทางวัฒนธรรรมที่มีอัตลักษณ์อันโดดเด่น มีความหมาย เรียบง่าย และลึกซึ้ง จากการกระทำหรือกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่ใช้ความพิถีพิถันและประณีต ผลิดอกออกผลเป็นศิลปะและศาสตร์หลากแขนง

หลากหลายศาสตร์ไม่ได้สร้างเพื่อชื่นชมความงดงามเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการฝึกจิตวิญญาณไปด้วย สามศิลปะดั้งเดิมของดินแดนแห่งพระอาทิตย์คือคุณค่าเหล่านั้น อันประกอบด้วย “คะโด” (KADO) ศาสตร์แห่งการจัดดอกไม้ , “ซะโด” (SADO) หรือ ศาสตร์แห่งการชงชา และ “โคโด” (KODO) ศาสตร์แห่งเครื่องหอม ล้วนมีคำว่า “โด” อันหมายถึง “วิถี” หรือแนวทาง

คะโด (KADO) หรือศิลปะการจัดดอกไม้ของญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ได้รับขนานนามในอีกความหมายเชิงจิตวิญญาณว่า “วิถีแห่งดอกไม้” ที่ผู้คนทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกต่างหลงใหล มิใช่เพียงการจัดดอกไม้ให้สวยงามด้วยการใช้กรรไกรตัดแต่งกิ่งก้านแล้วจัดวางอย่างสมดุลในแจกันเท่านั้นแต่ยังใส่ใจลงไป ในขณะที่ดอกไม้ถูกวางอย่างประณีตทีละดอก แต่หัวใจของผู้ทำก็ถูกจัดที่ จัดทางในทุกขณะที่ลงมือเช่นกัน

ผู้เชี่ยวชาญในวิถีแห่งคะโดถูกเรียกว่า “คะโด-กะ” หรือปรมาจารย์ด้านดอกไม้ ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดทั้งวิธีการจัดดอกไม้ รวมถึงมารยาท การฝึกจิตใจและร่างกายถือเป็นหนึ่งในวิถีตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่เคารพต่อต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ ธรรมชาติและฤดูกาล

อีกศาสตร์ที่หลายคนคุ้นเคยคือ ซะโด (SADO) พิธีชงชาของญี่ปุ่นอันเลื่องชื่อ ซึ่งผู้ปฏิบัติจะรวมตัวกันในห้อง ในบ้านส่วนตัว หรือในวัด เป็นวัฒนธรรมเก่าแก่จากประเทศจีน ตามพิธีของศาสนาพุทธนิกายเซน เป็นพิธีกรรมทางสุนทรียะที่ถ่ายทอดมายาวนาน

นับเป็นประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัส ที่ต้องปฏิบัติตามกระบวนการอย่างเคร่งครัด อาทิ การทานขนม ชื่นชมคุณค่าและความงดงามของสิ่งต่างๆ ทั้งถ้วยชา และอุปกรณ์ที่ใช้ และบรรยากาศรอบตัว ไปจนถึงการละเลียดดื่ม ถือเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณขั้นสูง

หลายคนอาจคุ้นเคยกับพิธีชงชา หรือ การจัดดอกไม้แต่ไม่รู้มาก่อนว่ามีอีกศาสตร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ โคโด (KODO) ศิลปะแห่งการชื่นชมเครื่องหอมของญี่ปุ่นหรือวิถีแห่งเครื่องหอม ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในช่วงยุคสมัยโชกุน หรือ หลายร้อยปีที่แล้ว

กระบวนการของโคโดคือการนำธูป หรือไม้ที่มีกลิ่นหอม ซึ่งอาจเป็นไม้หอมที่หาได้ยาก วางบนจนเซรามิกที่ตั้งบนถ่านที่คุกรุ่น ความร้อนทำให้ธูป หรือ ไม้หอม ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้ผู้เข้าร่วมได้ทั้งสัมผัส "กลิ่น" และ "เสียง" ของเครื่องหอมที่ถูกเลือกมา ที่ผู้เข้าร่วมสามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมทายประเภทธูปหรือไม้ที่เจ้าภาพนำเสนอ

สามารถแบ่งประเภทของกลิ่นได้ตาม “ริกโกกุ โกมิ” (Rikkoku gomi) อันหมายถึง 6 ประเภท 5 รส จากไม้หอมหกชนิด และมีรสชาติคือหวาน , ขม , เผ็ดร้อน , เปรี้ยว และ เค็ม ซึ่งต้องใช้ความสามารถในการแยกกลิ่นหอมออกเป็นองค์ประกอบต่างๆ ที่ต้องใช้ประสบการณ์และประสาทสัมผัสที่ละเอียดมาก

พลังของกลิ่น อาจพาเราย้อนกลับไปถึงบางเหตุการณ์ในวัยเด็ก หรือ บางช่วงเวลาที่สัมพันธ์กับกลิ่นต่างๆ การมีประสบการณ์กับโคโด จึงมากกว่าการใช้สัมผัสกลิ่นหอม แต่ยังต้องใช้หูฟัง รวมถึงเปิดหัวใจและจิตวิญญาณชื่นชมสุนทรียภาพตรงหน้า

โคโดถือเป็นการฝึกประสาทสัมผัสคมชัดขึ้น ขจัดมลพิษทางจิตใจหรือจิตวิญญาณ เยียวยาความรู้สึกโดดเดี่ยวและความเครียด อันเป็นพิธีกรรมและขั้นตอนที่พัฒนามาหลายศตวรรษ ถือเป็นหนึ่งในสามของศิลปะแบบคลาสสิกของญี่ปุ่นที่ส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน

การจัดดอกไม้ ชงชา และดมเครื่องหอม ทั้ง 3 ศาสตร์ สื่อสารผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์ ทั้ง การมองเห็น การลิ้มรส และการดมกลิ่น ล้วนเป็นศิลปะแห่งความละเอียดละออที่เผยให้เห็นถึงรากเหง้าทางวัฒนธรรม และการให้สำคัญกับขนบธรรมเนียมประเพณี ที่พัฒนาและถูกส่งต่อโดยปรมาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญจากรุ่นสู่รุ่น อันแสดงถึงความร่ำรวยทางวัฒนธรรม การให้คุณค่าศิลปะทุกแขนง ส่งผ่านความงามและสุนทรียภาพ

เหนือกว่าการสะท้อนผลงาน คือการยังสะท้อนถึงตัวผู้รังสรรค์ นั่นคือการเคี่ยวกรำฝีมือ ผสมผสานความมุ่งมุ่น และความพิถีพิถันใส่ใจของคนญี่ปุ่นอย่างแท้จริง