JCB Service
Culture

ญี่ปุ่นผู้สร้างวัฒนธรรมสมัยนิยมสุดป็อป ส่งออก การ์ตูน หนัง เพลง ครองใจคนทั่วโลก

นอกจากวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เป็นเหมือนจารีต หลักคิด และแนวปฏิบัติของผู้คนแต่ละประเทศแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่เรียกว่าวัฒนธรรมสมัยนิยม ที่แทรกซึมอยู่รอบตัวเรา เป็นแนวคิดหรือสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและถูกส่งต่อข้ามพรมแดนได้
ประเทศญี่ปุ่นนับว่าเป็นอีกประเทศที่มีวัฒนธรรมสมัยนิยมที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเมื่อจะผลิตสิ่งใด มักให้ความใส่ใจ ความพิถีพิถันในผลงาน ที่แม้จะผ่านกาลเวลามาก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยได้เสมอจนครองใจผู้คนทั่วโลก

ความเด่นชัดของวัฒนธรรมดังกล่าวเกิดขึ้นชัดเจน หลังประเทศญี่ปุ่นประสบสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง จึงเกิดการผลักดันแผนพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูประเทศด้วยการส่งออกวัฒนธรรม ในรูปแบบทั้ง การ์ตูน วิดีโอเกม เพลง และภาพยนตร์ไปสู่ประเทศอื่นๆ

การ์ตูนตาหวาน ตำนานวัฒนธรรมสมัยนิยมญี่ปุ่น
สำหรับวัฒนธรรมสมัยนิยมของญี่ปุ่นที่เข้ามาในไทยยุคแรกๆ คือ การ์ตูนญี่ปุ่น หรือ มังงะ การ์ตูนยอดนิยมของญี่ปุ่น นำเสนอเป็นนิยายภาพประกอบในรูปแบบกราฟิกที่ไม่เหมือนใคร อันมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ในยุคแรกกับการวาดภาพ เรื่องราวในชีวิตประจำวัน ทิวทัศน์ ธรรมชาติ ตำนานเก่าแก่ และวิญญาณ
มังงะเรื่องแรกตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2445 ในรูปแบบการ์ตูนตลกขบขัน แต่สำหรับคนไทยเริ่มรู้จักกับมังงะ จากการ์ตูนญี่ปุ่นสำหรับเด็กผู้หญิงที่เรียกว่า “โชโจ มังงะ” (Shoujo Manga) หรือที่หลายคนคุ้นหูว่า “การ์ตูนตาหวาน” มักมีภาพจำตัวละครทั้งชายและหญิงกับดวงตากลมเป็นประกาย และผมสีบลอนด์หรือสีผมอ่อนเหมือนอย่างชาวตะวันตก เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในยุคอาร์ต เดคโค จนสืบสานต่อกัน จากงานบนแผ่นกระดาษถูกนำไปผลิตไปสิ่งของ อาทิ เครื่องเขียน กล่องสี และตุ๊กตากระดาษ และได้กลายมาเป็นรากฐานสำคัญของการ์ตูนญี่ปุ่นในยุคต่อมา
สู่ยุครุ่งโรจน์แห่งอนิเมะ
จากหน้ากระดาษสู่จอเงินและจอแก้ว การ์ตูนมังงะได้ขยับมาสู่การเป็นภาพเคลื่อนไหว หรืออนิเมะ โดยอนิเมะญี่ปุ่นเติบโตรุ่งโรจน์มากในช่วงปีพ.ศ. 2523 - 2540 ด้วยการผลิตอนิเมะที่มีทั้งความบันเทิงและเป็นการ์ตูนสอนใจ เนื้อหาสะท้อนการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์ ความรักความสามัคคีต่อเพื่อนพ้อง เป็นต้น จนเกิดการ์ตูนเช่น โดราเอมอน , โปรเกมอน , เซเลอร์มูน และอีกมากมาย จนกระทั่งในยุคหลังเริ่มมีวาดการ์ตูนแนว หญิงรักหญิง หรือ ยูริ (Yuri) หรือ ชายรักชาย หรือ ยาโอย (Yaoi) ออกมา จนเกิดกระแสวัฒนธรรม Y ในไทยที่เป็นต้นแบบของซีรีส์วายที่กลายมาเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทยในปัจจุบันด้วย
จากอนิเมะสู่เจป็อป
สิ่งที่มาคู่กับอนิเมะเสมอมา นั่นคือเพลงประกอบ ที่แทบทุกเรื่องจะใช้เพลงเจป็อป กระแสความนิยมของอนิเมะยิ่งเป็นแรงส่งให้เพลงฮิตติดลมบนด้วยเช่นกัน โดยเพลงเจป็อปมีรากฐานมาจากเพลงแจ๊ซ ซึ่งเป็นที่นิยมมาก่อนในประเทศญี่ปุ่น โดยมียุคทองคือช่วงปีพ.ศ. 2495 จากนั้นก็เกิดแนวเพลงขึ้นมากมายอย่าง นิวมิวสิค และซิตี้ป็อป ก่อนที่ทุกแนวจะหลอมรวมกันกลายมาเป็นเจป็อปในเวลาต่อมาและเจป็อบก็ได้ขยายความนิยมไปในแทบทุกสื่อที่สอดคล้องวัฒนธรรมสมัยนิยมของญี่ปุ่น ทั้ง อนิเมะ, รายการโทรทัศน์ , เกม , โฆษณา รวมถึง ภาพยนตร์ด้วย เรียกได้ว่าเพลงเป็นตัวเชื่อมร้อยทุกกระแสวัฒนธรรมสมัยนิยมก็ว่าได้
เมื่อวัฒนธรรมสมัยนิยมญี่ปุ่นเจอความท้าทาย
อย่างไรก็ตามใช่ว่าการส่งออกวัฒนธรรมสมัยนิยมจะไม่มีคู่แข่งเลย เพราะในช่วงราวปี พ.ศ.2549 วัฒนธรรมเกาหลีก็รุกคืบเข้ามาด้วยการนำเสนอทั้งเพลง และซีรีส์ จนทำให้กระทรวงการต่างประเทศต้องประกาศนโยบายเปิดแนวรบด้านวัฒนธรรมขึ้นมาอีกระลอกใหญ่ เพื่อคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากแดนอาทิตย์อุทัยหรือ เพลงก็ตาม โดยสิ่งเหล่านี้ได้แพร่ขยายไปสู่สิ่งอื่นๆ อาทิ เกม ของเล่นหรือการแต่งตัวแบบคอสเพลย์เป็นต้น จนเกิดนโยบาย “Cool Japan” ที่ก่อตั้งโดยรัฐบาลอาเบะ ในปี พ.ศ.2555 เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่น พร้อมกระตุ้นกระแสญี่ปุ่นนิยมในต่างประเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมความบันเทิง ใน 18 กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ศิลปะการแสดง ภาพยนตร์ เพลงและวิดีโอ โทรทัศน์และวิทยุ งานฝีมือ ของเล่น เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เครื่องเขียน เป็นต้น
วัฒนธรรมสมัยนิยมในยุคดิจิทัล
แม้ว่าปัจจุบันจะมีวัฒนธรรมสมัยนิยมจากประเทศอื่นๆเกิดขึ้นมากมาย แต่ต้องยอมรับว่าผลงานจากประเทศญี่ปุ่นก็ยังครองใจคนมากมาย โดยเฉพาะมังงะและอนิเมะ ดังเช่น ผ่าพิภพไททัน โดย ฮาจิเมะ อิซายามะ ดาบพิฆาตอสูร และอื่นๆอีกมากมาย ในขณะที่อนิเมะดั้งเดิม อย่าง โปเกม่อน โดราเอม่อน หรือผลิตภัณฑ์จากคาแรคเตอร์ในเครือซานริโอ ที่แม้จะผ่านกาลเวลานานหลายสิบปีก็ยังมีฐานแฟนล้นหลาม คาแรคเตอร์เหล่านี้ถูกต่อยอดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากมาย เช่นเดียวกับผลงานของ Ghibli สตูดิโอภาพยนตร์อนิเมะของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ฝากลายเส้นพลิ้วไหว เรื่องราวลึกซึ้ง ที่ถูกจริตไม่เพียงแค่เด็กแต่ยังมัดใจผู้ใหญ่ด้วย โดยเฉพาะตัวการ์ตูน "โทะโตะโระ" จากเรื่อง โทโทโร่เพื่อนรัก ก็สามารถจัดงานอีเวนต์และจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกไปได้ทั่วโลก หรือ ผลงานของนักเขียนชื่อดังอย่าง ฮารูกิ มุราคามิ นักเขียนนวนิยาย เรียงความ และเรื่องสั้น ติดอันดับหนังสือขายดีหลายล้านเล่ม ถูกใจนักอ่านทั่วโลกและแฟนนักอ่านชาวไทยอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังมีผลงานชาวญี่ปุ่นที่เข้าไปบุกวงการแฟชั่น อย่างผลงานดอกไม้เจ็ดสีหน้ายิ้มที่หลายคนเรียกว่า Murakami Flower ก็ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลกหลายแบรนด์
และอีกสิ่งที่โดดเด่นคือ การคอสเพลย์ หรือการแต่งกายเลียนแบบตัวละครจากการ์ตูน เกม ภาพยนตร์ หรือนักร้อง ซึ่งได้รับความนิยมมาก เกิดงานอีเวนต์คอสเพลย์ในหลายประเทศทั้งในเอเชียและตะวันตก
ศาสตร์แต่ละด้านของวัฒนธรรมสมัยนิยมญี่ปุ่นเหล่านี้ต่างเสริมความแข็งแรงซึ่งกันและกัน ที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลรวมถึงชื่อเสียงให้กับประเทศญี่ปุ่นจนได้รับการยอมรับในด้านการเชื่อมโยงวัฒนธรรมดั้งเดิมสู่วัฒนธรรมสมัยนิยมที่สามารถปรับตัวให้สอดรับกับยุคสมัยได้
กลายมาเป็นวัฒนธรรมที่แพร่ขยายออกไปทุกซีกโลก ผู้คนต่างโอบรับวัฒนธรรมสมัยนิยมจากแดนอาทิตย์อุทัยผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตตนเองอย่างกลมกลืน และทำให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นหมุดหมายสำคัญทางวัฒนธรรมที่คนต่างชาติต้องการไปเยือนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก